แพลตฟอร์มขับเคลื่อนอุตฯ หุ่นยนต์…เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ
Industrial Transformation Platform (ITP)ก้าวใหม่ของเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติแบบครบวงจร เชื่อมโยงผู้ประกอบการ ธนาคาร และผู้ให้บริการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) ผ่านแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการไว้ในจุดเดียว (One Stop Service)
ความคืบหน้าการลงทุนภายใต้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ที่มีสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม หรือ สศอ. ที่เป็นหัวเรือใหญ่ได้เปิดตัว “Industrial Transformation Platform (ITP)” โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ หน่วยงานโรโบติกส์ เอไอ แอนด์ อินเทลลิเจนท์ โซลูชั่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (CoRE) เพื่อสร้างระบบใหม่ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ โดยเชื่อมโยงการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยเฉพาะปรับปรุงกระบวนการทำงานจากเดิมที่แต่ละหน่วยงานทำงานแบบแยกส่วน เพื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การทำงานร่วมกันบนCyber Platform ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจและแก้ไขกระบวนการที่เป็นปัญหาของผู้ประกอบการได้อย่างรวดเร็ว
นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ธนาคาร และผู้ให้บริการออกแบบระบบ (System Integrator: SI) ผ่านแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการไว้ในจุดเดียว (One Stop Service) เริ่มตั้งแต่การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐ การขอสินเชื่อเพื่อซื้อเครื่องจักรจากธนาคาร การจับคู่ธุรกิจกับ System Integrator (IS) ที่มีศักยภาพ การประเมินความคุ้มค่าในการลงทุนจากการปรับปรุงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ
สำหรับการผลิตด้วยหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยมีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล I-industry และ Single Formของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการขออนุมัติ/อนุญาตกับกระทรวงอุตสาหกรรม ในการขอรับบริการจากศูนย์ Industrial Transformation Center (ITC) ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมถึงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งสามารถสมัครเข้าโปรแกรมสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ได้แล้วนอกจากนี้ ยังมีธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เข้าร่วมนำเสนอโปรแกรมสินเชื่อ ได้แก่ SME Bank ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเป็นต้น
ในปี 2562 ทาง สศอ. ได้ตั้งเป้าที่จะขยายผลการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไปสู่เอสเอ็มอีในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมเกษตร โดยมุ่งหวังให้เป็นเครื่องมือสำหรับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนเพื่อดำเนินการ Smart Farmmingโดยสถาบันไทย-เยอรมัน ได้เริ่มนำร่องในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (อุบลราชธานี ศรีษะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ) เพื่อสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร เช่น การสนับสนุน Smart Module เช่น ระบบเซ็นเซอร์ในการวัดตัวแปรหรือพารามิเตอร์ต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการประเมินปัจจัยการผลิตอย่างคุ้มค่า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรในระยะยาว รวมถึงมุ่งเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ…ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมไทยวันนี้
ดร.พิชัยรัตน์ จิรานันรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการ โรโบติกส์ เอไอ แอนด์ อินเทลลิเจนท์ โซลูชั่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการมุ่งเน้นความสำคัญกับการพัฒนากลไกและสร้างสภาพแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีทางด้านวิทยาการหุ่นยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ในการบูรณาการและสนับสนุนในการขับเคลื่อน Industrial Transformationไปสู่ Industry 4.0 ของประเทศไทย โดยกลไกลนี้มีรูปแบบการให้บริการแบบ One-Stop Service และเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทุกภาคส่วน ผ่านการเชื่อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลากหลายหน่วยงานด้วยกัน เช่น System Integrator ธนาคารในการจัดหาเงินทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และศูนย์ความเป็นเลิศดานเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศไทย (CoRE) เป็นต้น
ด้านรศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เผยถึงความคืบหน้าแผนพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ซึ่งมีเป้าหมายระยะกลาง 5 ปี (ภายในปี 2564) ว่า “เรามีจุดมุ่งหมายยกระดับเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการลงทุนถึง 2 แสนล้านบาท และใช้หุ่นยนต์ในโรงงานมากกว่า 50% ในระยะยาว 10 ปี (ภายในปี 2569) เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นผู้นำการผลิต และต้องใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสูงมากในอาเซียน