Thai N.K. Plastic ปรับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจผลิต บรรจุภัณฑ์พลาสติกในยุคดิจิทัลด้วย SAP Business One โดย NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.

 

การปรับตัวของธุรกิจโรงงานและการผลิตด้วยการใช้เทคโนโลยีในการบริหารธุรกิจนั้นถือเป็นวิสัยทัศน์ที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา และ Thai N.K. Plastic ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกสัญชาติไทยก็เป็นอีกธุรกิจหนึ่ง ที่ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงาน ด้วยการนำระบบ ERP ชั้นนำอย่าง SAP Business One on HANA เข้ามาใช้ ในครั้งนี้ เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณเกียรตินนทพัฒน์ วงศ์บุญนาค รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทย เอ็น.เค.พลาสติก จำกัด ถึงเรื่องราวของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวงการบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ผ่านมา กับมุมมองในการปรับเปลี่ยนระบบบริหารธุรกิจครั้งใหญ่ จากเดิมที่เคยใช้ระบบบัญชีสำหรับบริหารธุรกิจขนาดเล็ก มาสู่การทำ ERP อย่างเต็มตัว พร้อมวิเคราะห์ถึงแนวโน้มและบทเรียนที่น่าสนใจให้กับเหล่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้เรียนรู้กันดังนี้

 

รู้จัก Thai N.K. Plastic ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจเครื่องดื่มรายเล็กและรายใหญ่

คุณเกียรตินนทพัฒน์ได้เล่าถึงธุรกิจของ Thai N.K. Plastic ในฐานะของการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับเครื่องดื่ม ที่มีอายุยาวนานกว่า 27 ปี โดยมีสินค้าหลากหลายชนิด เช่น ขวด PET, ขวด PP, ฝาพลาสติก, หลอดดูดน้ำ, ถังพลาสติก, ช้อนส้อมพลาสติก, ถุงพลาสติก, ฉลากพลาสติก รวมถึงยังสามารถขึ้น Mold เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ตามต้องการได้ เพื่อให้บริการแก่ธุรกิจเครื่องดื่มทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่มองหาภาชนะสำหรับนำไปใช้กับสินค้าของตนเองทั่วประเทศไทย

 

ลูกค้าของ Thai N.K. Plastic นี้ก็มีด้วยกันหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่บรรจุขวดพลาสติก, ร้านกาแฟหรือชาที่ต้องการแก้วพลาสติกที่มีคุณภาพ, ร้านโชห่วยที่ต้องการผลิตเครื่องดื่มไว้ขายในชุมชน และอื่นๆ โดยเกือบทั้งหมดจะเป็นลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งนอกจาก Thai N.K. Plastic จะมีสินค้าให้เลือกใช้งานได้หลากหลายครบวงจรเป็นอันดับต้นๆ ของไทยแล้ว ราคาของบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ที่ผลิตในประเทศก็ยังถือว่ามีราคาที่คุ้มค่าต่อการลงทุนเป็นอย่างมากอีกด้วย

 

คุณเกียรตินนทพัฒน์ระบุว่าข้อดีของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เหนือกว่าบรรจุภัณฑ์อื่นๆ นั้นก็มีด้วยกันหลายประการ ทั้งความแข็งแรงสูงไม่แตกเสียหาย ทำให้ภาคธุรกิจสามารถลด Waste ที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บหรือขนส่งเครื่องดื่มได้ สามารถออกแบบได้หลากหลายตอบโจทย์ธุรกิจได้ทั้งในเชิงความสวยงาม การตลาด และนวัตกรรม ไปจนถึงความสามารถในการนำไป Reuse หรือ Recycle ได้ดี อีกทั้งในกระบวนการผลิตเองก็ยังประหยัดพลังงานและวัตถุดิบมากกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่นๆ ทำให้ทุกวันนี้บรรจุภัณฑ์พลาสติกจึงยังคงได้รับความนิยมสูงอยู่นั่นเอง

 

นอกจากนี้ ด้วยวิกฤตโรคระบาดจากไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมา ก็ทำให้ทั้งไทยและทั่วโลกนั้นต่างต้องปรับเปลี่ยนภาชนะที่ใช้ทั้งในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหารมาสู่บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค ทำให้ตลาดบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ยอดขายของ Thai N.K. Plastic นั้นสูงถึง 600-700 ล้านบาทต่อปี

 

 

ธุรกิจเติบโตและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ระบบบัญชีเพียงอย่างเดียวไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป

ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจอย่างรวดเร็วนี้ คุณเกียรตินนทพัฒน์ที่มารับช่วงธุรกิจต่อจากครอบครัวก็ได้เข้ามาปรับปรุงระบบการทำงานหลายๆ ส่วน โดยหนึ่งในระบบที่คุณเกียรตินนทพัฒน์เห็นว่าต้องรีบเปลี่ยนโดยด่วนนั้นก็คือ Software สำหรับบริหารธุรกิจ ก่อนหน้านี้ Thai N.K. Plastic แม้จะเป็นธุรกิจที่มียอดขายหลักหลายร้อยล้าน แต่ด้วยความที่เป็นธุรกิจที่มีอายุยาวนาน ระบบ Software ที่ใช้จึงยังคงเป็น Local Software ซึ่งใช้งานมาตั้งแต่สมัยธุรกิจยังเล็กกว่านี้มาก ทำให้ Thai N.K. Plastic ขาดข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์การดำเนินธุรกิจไปหลายส่วน อีกทั้งยังไม่ยืดหยุ่นเพียงพอต่อธุรกิจที่มียอดขายมากขึ้นและมีความซับซ้อนสูงขึ้น ซึ่งทำให้พนักงานที่ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลเข้าไปในระบบบัญชีเหล่านี้ยังคงมีงาน Manual ปริมาณมาก และขาดความแม่นยำในการทำงาน

 

มองหาระบบ ERP ตัดสินใจใช้ SAP Business One on HANA บน Cloud Platform

เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อไปได้ในระยะยาว คุณเกียรตินนทพัฒน์จึงตัดสินใจว่าจะต้องรีบเปลี่ยนระบบริหารจัดการธุรกิจให้เป็น ERP ทันที และได้พิจารณาระบบ ERP จากผู้พัฒนาหลายรายควบคู่กันไป จากการใช้เวลาศึกษาระยะหนึ่ง Thai N.K. Plastic ก็ตัดสินใจเลือกใช้ SAP Business One ซึ่งเป็นระบบ ERP สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีความสามารถครบวงจร จากปัจจัยหลายประการได้แก่

 

  1. สามารถเริ่มต้นวางระบบ ERP ได้ในงบประมาณในการลงทุนเพียงไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น
  2. มีความสามารถที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้เพียงพอทั้งในแง่ของการเงิน บัญชี การผลิต และการขาย
  3. มีความสามารถที่ไม่ซับซ้อน ง่ายต่อการเรียนรู้และปรับตัวสำหรับพนักงาน
  4. สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ เพื่อต่อยอดในอนาคตได้

คุณเกียรตินนทพัฒน์กล่าวว่าในโครงการระบบ ERP ครั้งนี้ ทาง Thai N.K. Plastic ตัดสินใจเลือกใช้งานบน Cloud Platform จากการประเมินเทียบกับการติดตั้งใช้งาน ERP ภายในองค์กรแบบ On-Premises แล้วพบว่า Cloud นั้นมีความคุ้มค่าในการลงทุนที่มากกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของค่าใช้จ่าย การเข้าถึงและใช้งานได้จากโรงงานหลายแห่ง ทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา และการดูแลรักษาระบบที่ไม่ต้องจัดการด้วยตนเอง ไม่ต้องมี Data Center ของตนเอง ทำให้ Thai N.K. Plastic สามารถมุ่งเน้นไปที่การเร่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างเต็มที่

 

ในระยะแรกการใช้งานระบบ SAP Business One นั้นก็ยังคงต้องมีการปรับตัวกันค่อนข้างมากภายในบริษัท แต่จุดที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจได้อย่างชัดเจนนั้นก็คือความสามารถในการวิเคราะห์การตลาดของสินค้าได้ถึงระดับรายผลิตภัณฑ์, การบริหารต้นทุนและกำไรได้อย่างแม่นยำ ซึ่งในการจัดการสินค้าและวัตถุดิบกว่า 20,000 รายการนั้น SAP Business One สามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังมี Business Report ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจวางแผนธุรกิจได้

 

เลือก NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ในการ Implement ระบบ มั่นใจบรรลุโครงการได้สำเร็จ

เมื่อ Thai N.K. Plastic จะได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใช้ SAP Business One อย่างแน่นอน แต่การคัดเลือก Implementer ที่ดีก็สำคัญ ซึ่งในโครงการครั้งนี้ ทางผู้บริหารก็ได้เชิญผู้ให้บริการ SAP Business One มาเสนอระบบด้วยกันถึง 5 ราย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกใช้บริการจาก NTT DATA Business Solutions Thailand (NDBS Thailand) ที่สามารถนำเสนอการดำเนินงานบนระบบ SAP Business One ได้ดี รวมถึงมีประสบการณ์สามารถเข้าใจในธุรกิจของ Thai N.K. Plastic ได้เป็นอย่างดี เมื่อได้ร่วมงานกันจริงๆ ทาง NDBS Thailand ก็ได้เข้ามาสื่อสารทำงานร่วมกับทีมงานของ Thai N.K. Plastic อย่างต่อเนื่อง และมีการปรับปรุงแก้ไขระบบอยู่ตลอดไม่เว้นแม้วันเสาร์อาทิตย์ ด้วยการให้คำปรึกษาและคอยบริการอย่างใกล้ชิด ทำให้โครงการเดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถ Go Live ระบบได้สำเร็จ

 

เตรียมปรับนำ Mobile และ Barcode เสริมธุรกิจ เปลี่ยนการทำงานสู่ดิจิทัลให้มากขึ้น

เนื่องจากผู้บริหารของ Thai N.K. Plastic มีวิสัยทัศน์ในการต่อยอดด้านเทคโนโลยีในอนาคต ดังนั้นการเลือกใช้ SAP Business One จึงตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี โดยเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจนั้นได้แก่การปรับใช้งาน SAP Business One ผ่านอุปกรณ์ Mobile เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานมากยิ่งขึ้น และการประยุกต์นำ Barcode มาใช้ในส่วนของระบบ Warehouse และ Logistics ให้ทำงานเชื่อมต่อกับ SAP Business One

 

อุตสาหกรรมพลาสติกต้องเติบโตอย่างระมัดระวัง เทรนด์รักษ์โลกน่าจับตามอง

คุณเกียรตินนทพัฒน์ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ถึงผู้บริหารรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกว่าการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้อาจต้องมีความระมัดระวังสูงเป็นพิเศษ เพราะด้วยธรรมชาติของอุตสาหกรรมที่มีกำไรไม่สูงมากนัก การแข่งขันด้านราคาจึงอาจทำให้ส่งผลร้ายต่อธุรกิจมากกว่าผลดี และอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นทอดๆ ไปทั้ง Supply Chain ได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมนี้ต้องระวังให้ดี และควรมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาวอย่างมั่นคง

 

ในขณะเดียวกัน จากเทรนด์โลกด้าน Sustainability หรือความยั่งยืนนั้น ก็ทำให้ตลาด Bioplastics ที่ย่อยสลายได้กลายเป็นตลาดที่น่าจับตามอง แต่ประเด็นนี้ก็ต้องทำความเข้าใจกันให้ดีสำหรับการนำมาใช้งานในประเทศไทย เพราะ Bioplastics ยังมีต้นทุนที่สูงมาก การนำมาใช้งานในสัดส่วนที่สูงก็จะสะท้อนกลับไปยังต้นทุนการผลิต แต่หากนำมาใช้งานในสัดส่วนที่น้อยเกินไป บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ก็จะไม่สามารถย่อยสลายได้ ซึ่งในไทยหากจะให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในแง่มุมนี้จริงๆ ก็ต้องอาศัยความร่วมมือที่มากกว่านี้ และควรจะต้องมีหน่วยงานตรวจสอบกำกับควบคุมอย่างจริงจังมากขึ้น

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM