โคเวสโตร ลงทุนขยายกำลังการผลิตฟิล์มชนิดพิเศษในประเทศไทย พร้อมรองรับความต้องการในภูมิภาค

 

โคเวสโตร ประกาศความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตฟิล์ม โพลีคาร์บอเนต (PC) ชนิดพิเศษทั่วโลก ด้วยการก่อสร้างสายการผลิตใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ประเทศไทย ซึ่งได้เสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดแล้ว โดยการลงทุนครั้งนี้อยู่ในระดับหลักหลายสิบล้านยูโรและจะสร้างงานใหม่ประมาณ 40 ตำแหน่ง

 

“โรงงานผลิตใหม่นี้ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อให้การผลิตมีประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” นายทอร์สเทน ดรายเออร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ของโคเวสโตร กล่าว “ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าสำหรับฟิล์มชนิดพิเศษที่เป็นนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเทคโนโลยีทางการแพทย์ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์และผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษของเรา”

 

โคเวสโตรดำเนินงานโรงงานผลิตฟิล์มชนิดพิเศษในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2550 กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยฟิล์มโพลีคาร์บอเนตจากตระกูล Makrofol® และผลิตภัณฑ์ Bayfol® ที่ทำจากส่วนผสมโพลีคาร์บอเนตฟิล์มชนิดพิเศษประสิทธิภาพสูงเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ด้านการแพทย์และสุขภาพ การขนส่ง และเอกสารระบุตัวตน เป็นต้น โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโคเวสโตรในภูมิภาคนี้ ซึ่งการลงทุนขยายกำลังการผลิตครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทย ด้วยทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์และบุคลากรที่มีความสามารถสูง รวมถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเติบโตของตลาดและอุตสาหกรรม

 

“โรงงานผลิตใหม่นี้มีความสำคัญต่อเรา เพราะช่วยให้เราสามารถนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น และขยายการเข้าถึงตลาดในเอเชียแปซิฟิกไปพร้อมกัน” คุณออเกีย ดูร์นบอส หัวหน้ากลุ่มธุรกิจฟิล์มชนิดพิเศษระดับโลก กล่าว “ด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นตลาดและการให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มากขึ้น เราต้องการขับเคลื่อนการเติบโตให้กับโคเวสโตร”

 

ตั้งแต่ปี 2565 ศูนย์การผลิตมาบตาพุดของโคเวสโตร ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS ซึ่งถือเป็นการรับรองความยั่งยืนระดับสากลสำหรับชีวมวลและพลังงานชีวภาพที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่าและใช้ทั่วโลก ทำให้สามารถผลิตและจัดหาผลิตภัณฑ์แบบสมดุลมวลสารได้ช่วยประหยัดวัตถุดิบฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์แบบสมดุลมวลยังคงเหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฟอสซิลล้วน ซึ่งลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปใช้เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของลูกค้าได้อีกด้วย

 

“เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจและโอกาสในการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่ศูนย์การผลิตมาบตาพุด และเราได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัท ซึ่งนอกจากทำเลที่ตั้งและศักยภาพของบุคลากรด้านต่างๆ แล้ว ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานต่างๆ รวมถึงพาร์ทเนอร์ ทำให้โปรเจคนี้เสร็จสิ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งยังรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม” คุณนิศา สุทธิพรไพศาลกุล กล่าวปิดท้าย

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM