Business News

  บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้านำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ยกระดับระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้า ตลอดห่วงโซ่การผลิตอาหาร โชว์ผลสำเร็จนำร่องในกลุ่มไก่สดและหมูสด ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้บริโภค ด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร วางเป้าหมายปี 2566 ขยายผลต่อเนื่องในผลิตภัณฑ์กุ้ง   นางสาว อรพรรณ มั่งมีศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สํานักระบบมาตรฐานสากล  ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ให้ความสำคัญกับการส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสู่ผู้บริโภค นำระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าที่สอดคล้องตามหลักการที่กำหนดโดยองค์กรมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ(CODEX) และมาตรฐานไอเอสโอ(ISO) มาใช้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร สามารถสอบกลับแหล่งที่มาของวัตถุดิบ โรงงานที่ผลิตสินค้า กระบวนการผลิตทุกขั้นตอน โดยริเริ่มนำระบบการตรวจสอบย้อนกลับในรูปแบบดิจิทัล (CPF Digital Traceability) มาใช้ตั้งแต่ปี 2558  เป็นต้นมา   ในปี 2565 ซีพีเอฟ ร่วมกับ AXONS ผู้นำด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศเกษตรเทคโนโลยี (Agri-Tech)...

  โลตัส โชว์นวัตกรรม เปิดตัวผลิตภัณฑ์ถุงขยะหอมโลตัสแยกสี และถุงช้อปปิ้งแยกสีสำหรับนำกลับมาใช้ซ้ำเป็นถุงขยะ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนลดขยะและแยกขยะในครัวเรือนได้ง่ายและสะดวกขึ้น สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐแลพกรุงเทพมหานครในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และโครงการ “ไม่เทรวม” ที่จัดการเก็บขยะแบบแยกประเภทอย่างเป็นระบบ   นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส มีนโยบายด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน และมีการขับเคลื่อนการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุด โลตัสได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนประชาชนในการลดการทิ้งขยะ และแยกขยะในครัวเรือนได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยผลิตถุงขยะหอม 4 สีตามประเภทขยะ และถุงช้อปปิ้งที่สามารถนำมาใช้ซ้ำเป็นถุงขยะ โดยมีสีแตกต่างกัน โดยมีนวัตกรรมใหม่ล่าสุด คือการพิมพ์สีและข้อความบนถุงช้อปปิ้ง ที่จำหน่ายให้ประชาชนที่ลืมนำถุงผ้ามา เพื่อให้นำถุงกลับมาใช้ซ้ำเป็นถุงขยะที่สามารถแยกขยะอาหารและขยะทั่วไปในครัวเรือนอย่างสะดวกขึ้น และช่วยให้เจ้าหน้าที่เก็บขยะปฏิบัติงานง่ายขึ้น สามารถนำขยะไปจัดการได้อย่างเหมาะสมถูกประเภท สอดคล้องกับแนวทางในโครงการ “ไม่เทรวม” ของกรุงเทพมหานคร ที่เริ่มนำร่องพื้นที่เก็บขยะแบบแยกถังตามประเภทของขยะ เพื่อการจัดการอย่างเป็นระบบและเกิดประโยชน์สูงสุด”   ผลิตภัณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมของโลตัส ที่เปิดตัวใหม่ ได้แก่ ● โลตัส ถุงขยะหอมแยกสี: ถุงขยะสีเขียว กลิ่นแอปเปิ้ล...

  นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามเทรนด์การค้าที่น่าสนใจ ของรถให้บริการอาหารในรูปแบบธุรกิจฟู้ดทรัค หรือครัวเคลื่อนที่ ซึ่งมีต้นกำเนิดจากรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา     ลักษณะเด่นของฟู้ดทรัค คือ มีการปรับสภาพภายในรถให้เสมือนเป็นห้องครัวเคลื่อนที่ สามารถบริการขายอาหารได้ตามสถานที่ต่างๆ แก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันฟู้ดทรัคกลายเป็นเทรนด์ของการทำธุรกิจด้านอาหารที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความยืดหยุ่น และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของวิถีชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี     ทั้งนี้ หนึ่งในประเทศเอเชียที่ธุรกิจฟู้ดทรัคได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือเกาหลีใต้ ที่นอกจากจะมีรถบริการอาหารฟู้ดทรัคตามสถานที่สำคัญในย่านกลางเมืองแล้ว ผู้ประกอบการบางส่วนยังเพิ่มโอกาส และเห็นช่องทางการตลาดในการหารายได้เพิ่มขึ้น จากการนำรถอาหารเคลื่อนที่ไปให้บริการกลุ่มแฟนคลับที่ต้องการสนับสนุนศิลปิน (Food Support) ซึ่งในเกาหลีใต้ อุตสาหกรรมบันเทิงได้รับความนิยมอย่างสูงจากฐานแฟนคลับ จึงทำให้ธุรกิจฟู้ดทรัคเติบโตอย่างมาก ปัจจุบัน กรุงโซลมีจำนวนฟู้ดทรัคประมาณ 424,000 คัน หรือ 32% ของฟู้ดทรัคทั่วประเทศ     นายพูนพงษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลของ TBIC Food Truck Tailand พบว่า ตลาดธุรกิจฟู้ดทรัคของไทยมีการเติบโตดี...

  ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นางมิลลิเซนต์ ครุซ-ปาเรเดส (H.E. Mrs. Millicent Cruz-Paredes)เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย เนื่องในวาระดิถีวันขึ้นปีใหม่ ในวันที่ 11 มกราคม 2566 ณ สถานเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทย   ในโอกาสเดียวกันนี้ วว. ยังได้เข้าพบคณะทูตพาณิชย์ และผู้แทน The Philippine Trade and Investment Center (PTIC)-Bangkok ซึ่งเป็นสำนักงานตัวแทนของ Department of Trade and Industry (DTI) ฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทยด้วย   ทั้งนี้ วว. มีแผนลงนามความร่วมมือ...

  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประกาศเมื่อวันอังคาร (10 ม.ค.) ห้ามใช้ถุงพลาสติกชอปปิงแบบใช้ครั้งเดียวโดยจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มล่าสุดเพื่อมุ่งเน้นไปที่การลดมลพิษใน UAE ซึ่งเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมัน   สำนักข่าว WAM ของรัฐบาล UAE ประกาศว่า กฎหมายดังกล่าวจะห้ามนำเข้า ผลิต และจำหน่ายถุงดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป และคำสั่งห้ามนี้จะมีผลกับพวกถ้วย จาน และช้อนส้อมพลาสติกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569   UAE ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ (UN) ในปีนี้ได้ประกาศเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ยังคงยากที่จะประเมิน   ถุงพลาสติกนับเป็นหนึ่งในขยะที่ก่อปัญหามากที่สุด โดยสร้างมลพิษให้กับท้องถนนและทางน้ำ และยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ปีกและสิ่งมีชีวิตในทะเลอีกด้วย พลาสติกต้องใช้เวลาหลายทศวรรษในการย่อยสลาย และมีการพบอนุภาคขนาดจิ๋วของพลาสติกภายในร่างกายของปลา สัตว์ปีก และสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกด้วย   อาบูดาบีซึ่งเป็นเมืองหลวงของ UAE ได้ออกคำสั่งห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในเดือนมิ.ย. และเมืองแห่งอนาคตอย่างดูไบก็ได้เริ่มเรียกเก็บเงินประมาณ 6 เซนต์สำหรับถุงพลาสติกดังกล่าวในเดือนก.ค....

    ภายใต้ความร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Clarin, MARS และ Caudalie องค์กรเพื่อสังคม Second Life จัดเก็บและรีไซเคิลขยะพลาสติกไปแล้วกว่า 2,000,000 กิโลกรัม Second Life มีแนวทางการลดพลาสติกฟุตปริ้นท์อย่างยั่งยืน ด้วยศักยภาพในการรีไซเคิลขยะพลาสติก ถึง 5,000 - 8,000 ตันในปี 2566 พร้อมตั้งเป้ารีไซเคิลขยะให้ได้ถึง 50,000 ตันภายในปี 2570   ปัจจุบันขยะพลาสติกได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก จากจำนวนขยะพลาสติกกว่า 350 ล้านตันต่อปี พลาสติกที่ได้รับการรีไซเคิลในแต่ละปี มีเพียงบางส่วนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ โลกจึงเผชิญกับวิกฤตมลพิษพลาสติกในห่วงโซ่อาหาร อันก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ในช่วงที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อม องค์กรต่าง ๆ จึงตั้งเป้าหมายสู่การใช้พลาสติกใหม่ในธุรกิจเป็นศูนย์ (Plastic Neutrality) เพื่อร่วมแก้ปัญหาระดับโลกที่มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ องค์กรเพื่อสังคม "Second Life"...

  "เอกา โกลบอล" ผู้นำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร แบรนด์คนไทยรายใหญ่ของโลก เดินหน้าช่วยเอสเอ็มอีไทยแข่งขันบนเวทีโลก Q1/66 จัดโรดโชว์ 3 ภูมิภาค เผยมุมมองตลาดแพคเกจจิ้งพลาสติกปีหน้า มีทั้งโอกาสและความท้าทาย จับตากระแสรักษ์โลกเพื่อความยั่งยืน Sustainable Growth กำหนดเทรนด์ตลาดโลก เล็งปั้นยอดขายกลุ่มสินค้าไบโอเบสท์เติบโตเท่าตัว   นายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) เปิดเผยว่า มองสถานการณ์ปี 2566 ตลาดในประเทศน่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่เบาบางลง บริษัทจึงเตรียมความพร้อมเดินหน้าช่วยเหลือและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ไทย โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและขนมหวาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อก้าวสู่การทำธุรกิจระดับโลก โดยนำบรรจุภัณฑ์ของบริษัทไปใช้บรรจุอาหารเพื่อยืดระยะเวลาการจัดเก็บได้นานขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถด้านการขนส่งในระยะทางที่ไกลกว่าเดิม ถือเป็นการช่วยปิดจุดอ่อนของเอสเอ็มอีธุรกิจอาหารได้อย่างดี และยังเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตด้วย   ทั้งนี้ ภายในไตรมาสแรกของปี 2566 บริษัทจะจัดโรดโชว์...

  ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลกเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เพราะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นวงกว้าง ทั้งจากพลาสติกที่ตกค้างในทะเลซึ่งทำลายสัตว์น้ำและปะการัง พลาสติกที่ตกค้างในดินซึ่งมีผลให้ดินเสื่อมคุณภาพ อีกทั้งการเผาทำลายพลาสติกยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและยิ่งซ้ำเติมภาวะโลกร้อนให้รุนแรงขึ้น หลายประเทศจึงเริ่มออกมาตรการลดการใช้พลาสติกที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic : SUP) อาทิ หลอดพลาสติก และถุงพลาสติกหูหิ้ว ซึ่งถูกใช้งานและทิ้งเป็นขยะจำนวนมากในแต่ละวัน โดยล่าสุดในการประชุม COP27 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ก็ได้มีการเสนอให้แต่ละประเทศพิจารณาใช้มาตรการด้านการค้าเข้ามาช่วยลดการใช้พลาสติกทั่วโลก ?ส่องเทรนด์โลก? ฉบับนี้ จึงขอหยิบยกตัวอย่างประเทศที่นำมาตรการลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ SUP ขึ้นมาใช้ รวมถึงโอกาสของผู้ประกอบการไทยจากเทรนด์ใหม่ดังกล่าว   ตัวอย่างประเทศที่ประกาศใช้มาตรการลด-เลิกพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง   EU นับเป็นกลุ่มประเทศแรก ๆ ที่ดำเนินการลด-เลิกการใช้ SUP อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (EU Single-use Plastics Directive) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้   ห้ามใช้ SUP มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติก...

ตัวกล่องทำจากเทปเทอร์โมพลาสติกคอมโพสิตที่เสริมแรงด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดทิศทางเดียวเพียง 8 ชั้น และหนาเพียง 0.040 นิ้ว   Tri-Mack Plastics Manufacturing Corp. ได้พัฒนากระบวนการใหม่สำหรับการผลิตกล่องหุ้มที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูงโดยใช้เทปเทปเทอร์โมพลาสติกคอมโพสิตเสริมแรงด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ (TPC) เพียง 8 ชั้นที่วัดความหนาได้เพียง 0.040 นิ้ว ซึ่งได้เปิดตัวในงานแสดง CAMX เมื่อเดือนที่แล้ว โดยกล่องหุ้มถูกสร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการของ Tri-Mack ในการวางเทปแบบอัตโนมัติ การรวม และการขึ้นรูปแบบปั้ม ซึ่งสามารถผลิตชิ้นส่วนได้ภายในไม่กี่นาที แทนที่จะใช้เวลาหลายชั่วโมงสำหรับเทอร์โมเซ็ตทั่วไป   เปลือกหุ้มแบบใหม่นี้สามารถผลิตได้โดยใช้ใยแก้วและพลาสติกพื้นฐานที่แตกต่างกัน เช่น PAEK, PEEK และ PEI ซึ่งให้คุณสมบัติและโซลูชันที่ปรับแต่งได้หลากหลาย ข้อดีอีกประการของกระบวนการผลิตของกล่องหุ้มใหม่ คือ ช่วยให้สามารถเพิ่มฟังก์ชันการทำงาน สร้าง "วัสดุประกอบอัจฉริยะ" โดยการฝังการป้องกัน EMI หรือเพิ่มการเสริมแรงเฉพาะที่ผ่านการจัดวางที่ปรับแต่งได้...

  ในฐานะบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทย โอสถสภาได้กำหนดให้การลดผลกระทบที่เกิดจากของเสียบรรจุภัณฑ์และการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นหนึ่งในเป้าหมายด้านความยั่งยืนปี 2568 และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว บริษัทฯ ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนและโมเดลจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วอย่างมีประสิทธิภาพ โดยดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลาย รวมถึงชุมชนซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพลังที่สำคัญผ่านโครงการจากขวดแก้วสู่ขวดแก้ว (Bottle to Bottle) ส่งเสริมการแยกขยะ โดยเฉพาะขยะขวดแก้ว ในชุมชนรอบสำนักงานและโรงงานของโอสถสภา นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดไปสู่อาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย และชุมชนบางกระเจ้า ซึ่งเป็นพันธมิตรของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โอสถสภาได้ริเริ่มโครงการ "จากขวดแก้วสู่ขวดแก้ว" (Bottle to Bottle) ขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อปลูกพลังสีเขียวให้แก่ชุมชน โดยมอบอุปกรณ์สำหรับแยกขยะและส่งพนักงานจิตอาสาเข้าไปแนะนำวิธีการแยกขยะแก่ชุมชน เพื่อสร้างความเข้าใจในการแยกขยะอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมีการจดบันทึกปริมาณขยะที่ได้รับ เพื่อสมทบทุนจำนวน 50 สตางค์ สำหรับขวดแก้วทุกๆ 1 กิโลกรัมที่ส่งกลับเข้ามาสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อนำไปสร้างสาธารณประโยชน์หรือช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส โดยนำร่องกับชุมชนรอบข้างสำนักงานใหญ่ ย่านหัวหมาก ซึ่งมีบ้านที่เข้าร่วมโครงการกว่า 200 ครัวเรือน นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดสู่พื้นที่อื่นๆ โดยจับมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งเสริมให้พันธมิตรในโครงการขยะล่องหน...

#FOLLOW US ON INSTAGRAM