Business News

  FARREL POMINI® ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบและผลิตระบบคอมปาวนด์สำหรับงานกัดกร่อน งานที่ไวต่ออุณหภูมิ และงานที่ต้องการการเติมสารในปริมาณสูง รวมถึงโซลูชั่นส์การรีไซเคิล จะจัดแสดงในงาน K 2025 ร่วมกับบริษัทแม่ HF GROUP   นอกจากนี้ ภายในบูธยังมี WF RECYCLE-TECH ซึ่ง Farrel Corporation เป็นหุ้นส่วนและเจ้าของหลัก WF RECYCLE-TECH นำเสนอระบบไพโรไลซิสยางรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว ซึ่งผสานรวม Farrel Continuous Mixer (FCM™) เข้ากับกระบวนการ     บูธที่มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน   ธีม FARREL POMINI® สำหรับงาน K 2025 ชัดเจน : ความยั่งยืนผ่านนวัตกรรม ภายในบูธจะนำเสนอเทคโนโลยีและการสาธิตที่หลากหลาย เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวทางของบริษัทในการพัฒนาโซลูชั่นส์ที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง   ไฮไลท์ของงานประกอบด้วย: CPeX® Laboratory Compact Processor: เครื่องประมวลผลขนาดห้องปฏิบัติการที่ใช้เทคโนโลยีการผสมแบบต่อเนื่องที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของ FARREL POMINI®...

Omnia Technologies จะเข้าร่วมงาน drinktec 2025 ในฐานะพันธมิตรครบวงจรด้านเครื่องดื่มและวิทยาศาสตร์ชีวภาพ โดยให้การสนับสนุนลูกค้าตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การออกแบบ การส่งมอบผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร บริการหลังการขาย และการสนับสนุนทางดิจิทัล ฝ่ายเครื่องดื่มซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองปาร์มา และมีศูนย์กลางทั้งเชิงพาณิชย์และวิศวกรรม ได้นำความเชี่ยวชาญและความเป็นเลิศด้านซัพพลายเชนของภูมิภาคที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพมาประยุกต์ใช้ ควบคู่ไปกับการรักษาสถานะที่แข็งแกร่งในระดับสากล เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการอย่างใกล้ชิดในทุกตลาด   หัวใจสำคัญของงานนี้คือ ACMI ผู้นำระดับโลกด้านสายการบรรจุขวดแบบครบวงจรและระบบบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล นำเสนอโซลูชั่นส์แบบครบวงจร ตั้งแต่การรับวัตถุดิบไปจนถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ด้วยความร่วมมือจากกลุ่มธุรกิจ ACMI จึงดำเนินงานในฐานะแพลตฟอร์ม One-Stop-Shop ที่ครอบคลุม การเลือกปาร์มาเป็นที่ตั้งของแผนกเครื่องดื่ม ตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เสริมสร้างศักยภาพ การบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน และความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ด้วยการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของกลุ่มบริษัท   บริการของ Omnia Technologies ได้รับการออกแบบให้เป็นตัวขับเคลื่อนความต่อเนื่อง ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล: แพลตฟอร์มการขายและบริการที่ดำเนินงานอยู่ทั่วทั้ง 5 ทวีป ช่วยให้มั่นใจได้ถึงเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว การสนับสนุนระยะไกล และความใกล้ชิดในการดำเนินงาน ทั้งหมดนี้เน้นย้ำถึงกลิ่นอายแบบอิตาลีที่เป็นนิยามของแนวทางอุตสาหกรรมของ Omnia ตั้งแต่การทดสอบเดินเครื่องไปจนถึงการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์...

ประเทศไทยได้วางเป้าหมายสู่การเป็นศูนย์กลางการส่งออกอาหารของโลก โดยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ความต้องการสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่อง   อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการผลิตของไทยยังคงเผชิญความท้าทายจากปัญหาไฟตกที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมไปถึงต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการผลิตและกำลังการผลิตโดยรวมจนอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานและความน่าเชื่อถือในการส่งออก   ต้นทุนพลังงานยิ่งซ้ำเติมความท้าทายที่ภาคการผลิตต้องเผชิญโดยประเทศไทยเผชิญกับอัตราการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอุตสาหกรรมที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 2% และแตะระดับ 0.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงในปี 2566 ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังได้ออกข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้น บังคับให้ผู้ผลิตต้องดำเนินมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน   ตามแผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานลง 30% ภายในปี 2573 และสูงสุดถึง 40% ภายในปี 2593 เป้าหมายดังกล่าวทำให้การดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานในภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญเร่งด่วนเป็นพิเศษ เนื่องจากอุตสาหกรรมถือเป็นภาคส่วนที่ใช้ไฟฟ้ามากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนราว 42% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศ   ท่ามกลางบริบทเช่นนี้ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจึงจำเป็นต้องเร่งนำเทคโนโลยีการแยกขั้นสูง (Advanced Separation Technologies) มาใช้ ไม่เพียงเพื่อรักษาความต่อเนื่องของการผลิต แต่ยังช่วยยกระดับการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตไทยสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความยืดหยุ่น ความสามารถในการแข่งขัน และตอกย้ำสถานะของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก   ปัญหาไฟตก: อุปสรรคสำคัญต่อการเติบโต ความท้าทายด้านพลังงานเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะในการผลิต ความผันผวนของกระแสไฟและปัญหาไฟตกที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งทำให้แผนการผลิตถูกรบกวน ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงและสร้างความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการส่งมอบสินค้าสำเร็จรูปอย่างตรงเวลา ต่างได้รับผลกระทบจากการหยุดชะงักเหล่านี้   ผลที่ตามมาไม่ได้มีแค่ความล่าช้าเท่านั้น...

  ผศ.ดร.วีรชัย  อาจหาญ  ผู้ว่าการ  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  (อว.)  พร้อมด้วย  ดร.เรวดี  อนุวัฒนา   ผอ. ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ  และคณะนักวิจัย  ร่วมต้อนรับ   นางภรณี   กองอมรภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย (Dow Thailand) และนายคงศักดิ์ ดอกบัว ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สถาบันพลาสติก  ในโอกาสเข้าพบเพื่อรายงานความก้าวหน้าโครงการ Smart  Recycling  Hub  Project ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก Alliance to  End  Plastic  Waste  (AEPW)  ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีการร่วมหารือแนวทางการขับเคลื่อน Smart  Recycling...

รายงานความรับผิดชอบขององค์กรประจำปี 2568 ซึ่งรายงานความสำเร็จในปี 2567 เผยให้เห็นเหตุการณ์สำคัญด้านสภาพภูมิอากาศ บุคลากร และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์     เมทเล่อร์-โทเลโด ผู้นำระดับโลกด้านเครื่องมือวัดความแม่นยำและโซลูชั่นส์ การตรวจสอบ ได้เผยแพร่รายงานความรับผิดชอบขององค์กรประจำปี 2568 ซึ่งครอบคลุมปีรายงาน 2567 โดยเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระยะยาว และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ   ในปี 2567 เมทเลอร์-โทเลโด ยังคงรักษาการดำเนินงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนได้อีกครั้ง และบรรลุเป้าหมายในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ทั่วทั้งโรงงานทั่วโลก บริษัทยังรายงานการลดปริมาณขยะฝังกลบลง 74% ตั้งแต่ปี 2561 และยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดปริมาณขยะฝังกลบเป็นศูนย์ (<5%) ในปี 2568 ความสำเร็จเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GreenMT เชิงกลยุทธ์ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันดำเนินมาเป็นปีที่ 15 แล้ว โดยขับเคลื่อน โครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ทั่วทั้งบริษัท   “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ” Patrick Kaltenbach ประธานและซีอีโอของเมทเล่อร์-โทเลโด กล่าว...

  Indonesia faces a growing environmental challenge: plastic waste. As the world’s second-largest contributor to marine plastic pollution, the country urgently needs solutions. One promising initiative is Amandina Bumi Nusantara, a PET recycling company founded in 2022 by Coca-Cola Europacific Partners Indonesia and Dynapack Asia.   With limited...

  คุณรู้หรือไม่ว่าเครื่องดื่มที่เราดื่มกันทุกวันล้วนมีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อการสำรวจอวกาศ แม้ว่าคำว่า “เทคโนโลยีอวกาศ” อาจทำให้จินตนาการถึงจรวดและดาวเทียมที่โคจรอยู่ห่างจากโลกหลายแสนกิโลเมตร แต่ความจริงก็คือเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยดาราศาสตร์นั้นใกล้ตัวกว่าที่คิด อันที่จริง ร่องรอยของเทคโนโลยีอวกาศยังฝังแน่นอยู่ในกระบวนการผลิตสิ่งของในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องดื่ม ในเกือบทุกขั้นตอนของกระบวนการ     ความท้าทายของการสำรวจอวกาศไม่ได้จำกัดอยู่แค่การสร้างจรวดหรือดาวเทียมเท่านั้น อุปสรรคสำคัญประการหนึ่งอยู่ที่การสร้างสภาพแวดล้อมการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับนักบินอวกาศภายในสภาวะไร้น้ำหนักของยานอวกาศ ความจำเป็นนี้นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีอาหารและน้ำขั้นสูงที่ไม่เพียงแต่ปลอดภัยต่อการบริโภคเท่านั้น แต่ยังมีเสถียรภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ และบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย นวัตกรรมเหล่านี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกยกระดับวิธีการผลิตของตนเอง โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ได้จากการสำรวจอวกาศเพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มรูปแบบใหม่ กล่าวโดยสรุป ดาราศาสตร์ได้ช่วยหล่อหลอมนวัตกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตของเราในรูปแบบที่คาดไม่ถึงและมีความหมาย   ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อการสำรวจอวกาศได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตหลัก ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ TCP Group ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัสสปอนเซอร์ และอื่นๆ บริษัทได้ผสานความรู้และนวัตกรรมจากเทคโนโลยีอวกาศเพื่อยกระดับคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพการผลิตของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ทรงพลังว่าร่องรอยของเทคโนโลยีอวกาศกำลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอย่างไร   ที่ TCP Group เราพบร่องรอยของเทคโนโลยีอวกาศได้ตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การคิดค้นสูตรจนถึงการส่งมอบขั้นสุดท้าย โดยเริ่มต้นจากการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์โดยใช้วิธีการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการวางแผนอาหารสำหรับนักบินอวกาศ เพื่อให้มั่นใจว่าแต่ละสูตรตรงตามข้อกำหนดทางโภชนาการประจำวัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อปรับระดับสารอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันอย่างแม่นยำ ในทำนองเดียวกัน กลุ่ม TCP ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างกว้างขวางเพื่อปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันของคนไทย (Thai RDI)...

  นางสาวณินทิรา อภิสิงห์ เลขานุการสภาธุรกิจไทย–ยุโรป สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าร่วมแสดงความยินดีกับหอการค้าสวิส–ไทย (Swiss–Thai Chamber of Commerce: STCC) เนื่องในโอกาสการขยายสำนักงานแห่งใหม่ พร้อมทั้งการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนของ Switzerland Global Enterprise (S-GE) ณ สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย กรุงเทพมหานคร   การเปิดสำนักงานตัวแทนของ S-GE ในประเทศไทยจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงสนับสนุนภาคธุรกิจในการเข้าถึงข้อมูลตลาด โอกาสทางการค้า และความร่วมมือด้านการลงทุนในอนาคต ...

‘บมจ. เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี’ หรือ CHAO ผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” เดินหน้าสร้างแบรนด์ไทยในเวทีโลก ยกทัพขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ Anuga 2025 ณ เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี เพื่อแสดงศักยภาพและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายฐานลูกค้าในตลาดยุโรป ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการยกระดับขนมขบเคี้ยวไทยในตลาดโลก ปักธงสร้างการเติบโต ชูเป้ารายได้จากต่างประเทศโตทะลุ 35% ในปี 2028     นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า เจ้าสัวได้เข้าร่วมงาน Anuga 2025 จัดขึ้น ณ...

#FOLLOW US ON INSTAGRAM