TBCSD โชว์ผลงานปี 63-เปิดแผนปฏิบัติการปี 64

 

องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) อวดผลงานปี 2563 จับมือพันธมิตรและภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ (Country Issue) ทั้งในประเด็น PM2.5 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ขยะพลาสติก และขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมประกาศแผนดำเนินงานปี 2564 เดินหน้าส่งเสริมภาครัฐและภาคเอกชนร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ด้าน 3 องค์กรพันธมิตร “สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” แนะกลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจในยุค New Normal

 

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) เปิดเผยว่า TBCSD ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 จากการรวมตัวกันของภาคธุรกิจระดับแนวหน้าของประเทศไทยที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนให้ภาครัฐและภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายระดับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสร้างสรรค์กิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบัน TBCSD มีสมาชิกกว่า 40 องค์กร ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม กลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มอื่นๆ

 

“ในปี 2563 ทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยได้เผชิญกับความท้าทายในรูปแบบใหม่ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมถึงวิถีการดำเนินชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 50 ล้านคนและผู้เสียชีวิตทะลุ 1 ล้านคน ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะสามารถรับมือกับโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการจัดอันดับดัชนี Global COVID-19 Index (GCI) เป็นอันดับ 1 ที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังมีความน่าเป็นห่วงและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้ที่ลดลงและความไม่แน่นอนของธุรกิจ ภาคธุรกิจจึงต้องวิเคราะห์โอกาส ปรับตัวด้วยการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจตาม New Normal หรือชีวิตวิถีใหม่ มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพการผลิตและสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด พัฒนายุทธศาสตร์เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM