
กลุ่มมิตรผล ก้าวสู่อันดับ 1 ของโลกด้านความยั่งยืน ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จัดอันดับโดย S&P Global
กลุ่มมิตรผล ก้าวสู่ผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลก เป็น Industry Leader ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) Score 2566 ซึ่งมีกว่า 9,400 บริษัททั่วโลกเข้ารับการประเมิน ใน 62 อุตสาหกรรม นอกจากนี้กลุ่มมิตรผลยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook Member 2567” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ จนทำให้ได้รับผลการประเมินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการกำหนดเป้าหมายและสร้างผลลัพธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนจากภาคเกษตรไทยให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าปักหมุดสู่การเป็นองค์กรที่ลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593
คุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิตรผลที่เราให้ความสำคัญ และลงมือปฏิบัติจริงมาโดยตลอด ซึ่งจากการที่กลุ่มมิตรผลเติบโตมาจากภาคเกษตร ทำให้เราตระหนักเป็นอย่างดีว่าภาคอุตสาหกรรมนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก ตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบการเกษตร จนถึงผู้บริโภค เราจึงใช้แนวคิด “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ (Grow Together)” ในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่แรก และปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานโลก ในหลากหลายมิติด้วยการใช้ความรู้ด้านการวิจัย เทคโนโลยีดิจิตอล และนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาช่วยบริหารจัดการ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความยั่งยืนระดับโลกที่กลุ่มมิตรผลได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (CSA) ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินแบบเดียวกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการประเมินผล Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) โดย S&P Global เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการเข้าร่วมการประเมิน ทำให้เราเห็นโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานในมิติต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถพัฒนาอันดับได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากอันดับ 17 ในการเข้าร่วมการประเมินครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน จนได้รับอันดับ 2 ในปีที่แล้ว และอันดับ 1 ในปีนี้ โดยแนวคิดเบื้องหลังการพัฒนางานด้านความยั่งยืนทั้งหมดนี้คือความเชื่อที่ว่าเราไม่สามารถเติบโตบนโลกนี้ได้เพียงลำพัง เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการพัฒนาภาคเกษตรไทยให้เป็นแหล่งผลิตอาหารและพลังงานทดแทนที่มั่นคง รวมถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ให้กับสังคมต่อไป”
ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มมิตรผลยังได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศในกลุ่ม Food & Beverage Process จาก CDP (Carbon Disclosure Project) ในระดับ B ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก และภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในระดับ C โดย CDP เป็นองค์กร เพื่อสาธารณประโยชน์ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำคัญต่อโลก และยังเป็นองค์กรที่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ ให้ความเชื่อมั่นมากที่สุดองค์กรหนึ่งของโลกอีกด้วย