เศรษฐกิจหมุนเวียน ALTERNATIVE VS SURVIVAL? ทางเลือก VS ทางรอด? Food packaging Industry อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร

Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน

ALTERNATIVE VS SURVIVAL?

ทางเลือก VS ทางรอด?

Food packaging Industry

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร

Article By. คุณธนนันท์ จินดากิจสกุลชัย

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดในวงการอุตสาหกรรม

 

 

 

 

ในฉบับบนี้ จะขอกล่าวถึงเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อที่จะได้เรียนรู้ จาก บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนในการทำกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เรากำลังพูดถึงบริษัท เต็ดตรา แพ้ค บริษัทข้ามชาติสัญชาติสวีเดนและ สวิส ผู้นำด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก รายได้จากยอดขาย ของบริษัท เต็ดตรา แพ้ค ในปีที่แล้ว พ.ศ.2562 อยู่ที่ 11.5 พันล้าน ยูโร (ประมาณ 416 พันล้านบาท) 36%ของรายได้จากยอดขาย มาจากเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งสูงสุดของยอดขายทั่วโลก ขณะที่ยอดขายจากยุโรปและเอเชียกลาง มีมูลค่า 28% และจากอเมริกา คิดเป็น 26%ของยอดขายทั่วโลก สินค้า 3 อันดับแรกของบรรจุภัณฑ์อาหารที่ขายดีรวมเป็น 83% ของยอดขายทั้งหมดในปีที่แล้ว ได้แก่ บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับอาหารที่เป็นของเหลว ประเภทนม คิดเป็น 57.9% บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับน้ำผลไม้และน้ำหวาน คิดเป็น 14.8% และบรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 10.2%

 

 

 

บริษัท เต็ดตรา แพ้ค เป็น 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรมในเครือเต็ดตรา ลาวาว ปี พ.ศ. 2534 บริษัทเต็ดตรา แพ้ค ได้ควบรวมกิจการกับบริษัท อัลฟา ลาวาว ซึ่งเป็นผู้นำในด้าน อุปกรณ์และเครื่องมือในการสร้างโรงงานในอุตสาหกรรมอาหาร รวมทั้งแปรรูป และการเกษตร อีกสองบริษัทในเครือเดียวกันได้แก่ บริษัท ไซเดน และบริษัท ดีลาวาว ทั้งสามบริษัทในเครือ เต็ดตรา ลาวาว มุ่งเน้นในเรื่องเทคโนโลยี่ และการบริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การบรรจุภัณฑ์ และการขนส่งกระจายอาหาร

 

 

 

 

เต็ดตรา แพ้ค “ปกป้อง ทุกคุณค่า” (PROTECTS WHAT’S GOOD™) ที่มีสินค้านวัตกรรมที่มากมาย ด้วยเทคโนโลยีและการบริการ ด้วยปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกๆ ที่ ทั่วโลก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

จากอดีตของ เต็ดตรา แพ้ค ที่เริ่มด้วยนวัตกรรมการใช้เทคโนโลยี ทำบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัย ที่เริ่มต้นจากถุงนมพลาสติก รูปสามเหลี่ยมสี่หน้า ไปสู่กล่องนมปลอดเชื้อ และขบวนการ ฆ่าเชื้อน้ำผลไม้และนมโดยใช้ความร้อน เพื่อการถนอมคุณภาพอาหารไม่ให้บูดเสีย การพัฒนามีมาอย่างต่อเนื่องจนมาเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากทรัพยากรทดแทนและรีไซเคิลได้ทั้งหมด  รวมถึงฝาปิดพลาสติกที่ทำจากวัสดุชีวภาพ เต็ดตรา แพ้ค  ได้ใช้เทคโนโลยี อีบีม โดยความร่วมมือของบริษัทโคเม็ด ใรการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ แทนการใช้สารไฮโดรเจนเปอร์อ็อกไซด์ เป็นการลดพลังงานและสารเคมีในการบำบัดน้ำเสีย และเมื่อเร็วๆ นี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท โคเม็ด เพื่อครอบครองเทคโนโลยี อีบีม เต็ดตรา แพ้ค มุ่งมั่นหาหนทางเพื่อที่จะเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด และในฉบับนี้เราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันว่า การนำเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในทางขับเคลื่อนทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะยังคงความเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีขนาดใหญ่ด้วยยอดขายที่สูงสุดในโลก

 

 

 

3 กลยุทธ์ หลักในการดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน

 

 

 

  1. แหล่งวัตถุดิบ โดยการเลือกแหล่งวัตถุดิบที่ถูกต้อง จะนำไปสู่การลดการปลดปล่อยคาร์บอน ซึ่ง เป้าหมายของ เต็ดตรา แพ้ค คือการใช้ แหล่งวัตถุดิบที่มาจากพืชให้มากที่สุดในการนำมาทำบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา แพ้ค ได้นำระบบการติดฉลาก FSC บนกล่องบรรจุภัณฑ์อาหารเหลว เป็นครั้งแรกของโลกในปี พ.ศ. 2550 โดย FSC ™ ว่าด้วยการจัดการห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ (FSC Chain-of-Custody) FSC เป็นองค์กรที่ก่อตั้งโดยกลุ่มองค์กร เอ็นจีโอ กลุ่มผู้ใช้และผู้ค้าไม้ และถือเป็นมาตรฐานรับรองการบริหารจัดการป่าไม้ด้วยความรับผิดชอบที่ดีที่สุดในโลก]
  2. การดีไชน์บรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการรีไชเคิลและลดปริมาณขยะ กล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารเหลว ควรทำมาจากทรัพยากรทดแทนและรีไซเคิลได้ทั้งหมด เต็ดตรา แพ้ค ได้ลงทุนในการนำกลยุทธด้านนวัตกรรมมาใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรีไชเคิลและลดปริมาณขยะ และเพิ่มการใช้วัตถุดิบที่เป็นทรัพยากรทดแทนให้มากขึ้น แต่ยังคงความปลอดภัยของอาหาร การดีไชน์บรรจุภัณฑ์ ของ เต็ดตรา แพ้ค จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะส่งผลถึง ห่วงโซ่คุณค่าการรีไซเคิลทั้งหมด เต็ดตรา แพ้ค ได้ร่วมมือกับคู่ค้าทั้งหมดในการรณรงค์การรีไซเคิลกระดาษ และการใช้บางส่วนของกล่องบรรจุภัณฑ์ระดับขั้นที่ 2 ที่ทำมาจาก วัสดุรีไซเคิล เต็ดตรา แพ้ค เป็นผู้นำรายแรกของโลกที่นำหลอดกระดาษมาใช้บรรจุภัณฑ์แบบกล่อง ซึ่งได้เปิดตัวจำหน่ายในกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งเต็ดตรา แพ้ค ก็ได้ดำเนินการพัฒนาต่อไปเพื่อผลิต หลอดดูด แบบย่อยสลายได้ รวมทั้งวัสดุทางเลือกอื่นๆ และห่วงปิดฝา   เต็ดตรา แพ้ค ได้ร่วมกับ สมาคมภาคพื้นยุโรป ในการหา เทคโนโลยีในการนำมาใช้คัดแยก สำหรับบรรจุภัณฑ์ อัจฉริยะ

 

 

ภาพด้านล่าง แสดงถึง บรรจุภัณฑ์ที่สามารถ แกะด้านบนเพื่อเพิ่มโอกาสในการคัดแยก เพิ่มการรีไชเคิลและลดปริมาณขยะ พร้อมๆกับเพิ่มการขนส่งได้มากขึ้น

 

 

ในอนาคต บรรจุภัณฑ์จะไม่ใช่ใช้เป็นเพียงแค่ปกป้องอาหารจากการปนเปื้อนและยืดอายุอาหาร หากแต่จะใช้ในการสื่อสารของผู้ผลิตกับผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยี่แบบดิจิตัล จะทำให้บรรจุภัณฑ์อัฉริยะทำงานเชื่อมต่อกับ Internet of Things ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะให้ข้อมูลกับผู้บริโภคได้มากขึ้น ตั้งแต่ ปลูก แปรรูปด้วยการผลิต วันที่ผลิต คุณค่าทางโภชนาการ ตลอดจน เชื่อมต่อกับตู้เย็นเพื่อตรวจสอบปริมาณและวันหมดอายุ ผู้ผลิตเองสามารถที่จะตรวสอบ คุณภาพสินค้าได้แบบครบวงจร ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในอาหาร เข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการลดของเสีย และบรรลุเป้าหมายในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

 

 

 

The Tetra Pak® Connected Package เป็นก้าวถัดไปที่ทำการเชื่อมโยง อินเตอร์เน็ตแพลตฟอรม์กับ โค๊ดปริ้นท์เฉพาะตัว ของแต่ละบรรจุภัณฑ์ เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับและการเข้าถึงผู้บริโภค

 

 

 

 

  1. การเก็บและรวบรวม ขยะรีไซเคิล สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทกระดาษที่ใช้แล้ว การจะนำกลับมาใช้ใหม่( Reusable) คงไม่สามารถทำได้ ดังนั้นการรีไซเคิลเป็นการแยก ส่วนประกอบของกล่อง คือ เยื่อกระดาษ พลาสติก และอะลูมิเนียมฟอยล์ สามารถนำไปรีไซเคิลและปรับเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ได้ การนำกลับมารีไซเคิลและการนำเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ เริ่มจากาการ รวบรวม คัดแยกขยะ และรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาเป็นวัตถุดิบใช้ได้ใหม่ หรือ การแปรวัสดุต่างๆ ที่จะกลายเป็นขยะให้กลับมาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่(Upcycling)และเพิ่มมูลค่าของสินค้า เช่นนำมาใช้ผลิตเป็น หลังคา ดังเช่นในโครงการ หลังคาสีเขียว ซึ่ง เต็ดตรา แพ้ค ร่วมกับหลายองค์กรการกุศลในประเทศไทย รวบรวม กล่องนมที่ใช้แล้ว มารีไซเคิลได้เป็นหลังคา หรือการนำกล่องนมที่ใช้แล้วมารีไซเคิลได้เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ใช่อาหาร เช่น กล่องสำหรับใส่ของขวัญปีใหม่ สำหรับสินค้าในโครงการเพื่อนพึ่งพา การเก็บและรวบรวม ขยะรีไซเคิลต้องอาศัย ความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายในการจัดเก็บ ตั้งแต่ในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค เพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับค่าใช้จ่าย

 

 

 

 

 

เต็ดตรา แพ้ค ได้มีการเก็บกล่องกระดาษอาหารที่ใช้แล้ว ถึง 51พันล้านกล่อง คิดเป็น 27% ของยอดขายทั้งหมด และได้มีการร่วมก่อตั้ง องค์กร 4Evergreen ในยุโรป เพื่อส่งเสริมการใช้กล่องบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากเยื่อ เพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบยั่งยืน เต็ดตรา แพ้ค ยังได้ทำงานร่วมมือกับคู่ค้า อย่าง Velio ในการคัดแยกให้ทุกชิ้นส่วนของกล่องที่ใช้แล้ว นำมารีไซเคิลได้ทั้งหมด ในปี พ.ศ.2568 เต็ดตรา แพ้ค ยังได้ทำงานคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Furukawa Electric ในการจะทำให้ขยะพลาสติกและขยะกระดาษมารวมกันได้ในขบวนการเดียว ในการผลิต แผ่นใยแก้วพลาสติกในราคาถูกลง

 

 

 

เต็ดตรา แพ้ค ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายในปี พศ.2573 การปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเป็นศูนย์ สำหรับทุกสถานที่ประกอบการของบริษัท

 

 

 

โดยสรุปแล้ว จะเห็นได้ว่าเราสามารถเรียนรู้จากบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ได้สร้าง นวัตกรรม และใช้เศรษฐกิจหมุนเวียน ในการทำกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในการรับผิดชอบต่อสังคม เป็นองค์กรที่เป็นพลเมืองที่ดีในการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโตอย่างยั่งยืนและเพิ่มการอยู่รอดในด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม อีกทั้งเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด ในการทดแทนบรรจุภัณฑ์พลาสติก ด้วยการปรับเปลี่ยนบทบาทของตนและจับกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจและให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM