เทคโนโลยีกับการบรรจุ..ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

 

 

 

ในยุคของอุตสาหกรรม 4.0 ที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสินค้า เพราะอุตสาหกรรม 4.0 คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตมาใช้ในกระบวนการผลิตสินค้า และมีจุดเด่นคือสามารถเชื่อมความต้องการของผู้บริโภครายบุคคลเข้ากับกระบวนการผลิตสินค้าได้โดยตรง เช่น โรงงานยุค 3.0 ผลิตของแบบเดียวกันจำนวนมากในเวลาพริบตาเดียว แต่ทว่าในอนาคต โรงงานยุค 4.0 จะสามารถผลิตของหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันได้เป็นจำนวนมากในเวลาพริบตาเดียว โดยใช้กระบวนการผลิตที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจรแบบ “Smart Factory”

 

 

การเลือกใช้ระบบอัตโนมัติต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสินค้าหรือกระบวนการผลิตได้อย่างเหมาะสม จะสามารถช่วยต่อยอดจุดเด่นและเพิ่มปริมาณการผลิตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่สามารถผลักดันให้มีกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การลำเลียง การบรรจุหีบห่อ และการขนส่ง ฯลฯ

 

 

 

 

 

อย่างเช่นในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากเรื่องของความต้องการของผู้บริโภคซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตจะต้องรับมืออยู่ตลอดเวลาแล้วผู้ผลิตยังต้องตามให้ทันกับแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลารวมทั้งยังจำเป็นต้องสร้างสิ่งใหม่ๆ ในเชิงนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นความสนใจและรองรับต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วยสิ่งที่ท้าทายความสามารถของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ให้มีการสร้างนวัตกรรมขึ้นมาในโลกปัจจุบันนี้ ก็คือ การที่โลกมีจำนวนประชากรเพิ่มสูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของความต้องการบริโภคของชนชั้นกลาง รวมไปถึงกระแสของพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านมือถือ (M-Commerce หรือ Mobile Commerce) ที่เกิดขึ้นอย่างมากมายเป็นทวีคูณ ท่ามกลางกระแสแนวโน้มอื่นๆ อาทิเช่น การมาถึงของสังคมสูงวัย กระแสแนวโน้มของสังคมที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้หญิง เป็นต้น

 

 

ได้มีการประเมินกันว่าในปัจจุบัน อาหารที่ผลิตเพื่อการบริโภคนั้นมีการเน่าเสียหายมากถึงหนึ่งในสามของจำนวนการผลิตทั้งหมด และเพื่อเป็นการใช้สิ่งแวดล้อมเพื่อมนุษยชาติอย่างคุ้มค่า จึงได้มีการคิดค้นเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ให้เข้ามามีบทบาทที่จะลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ พูดง่ายๆ ก็คือทำให้บรรจุภัณฑ์มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการช่วยเก็บรักษาผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มให้มีความปลอดภัยและทำให้มนุษย์สามารถเก็บไว้บริโภคได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การออกแบบบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญมากพอๆ กับฟังก์ชันการใช้งาน นอกจากนี้ ความก้าวหน้าในเรื่องวัสดุที่นำมาใช้ทำเป็นบรรจุภัณฑ์และความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อกระบวนการบรรจุภัณฑ์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อพัฒนาการในบรรจุภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย

 

 

 

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชียส่วนใหญ่นั้นผู้บริโภคต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์มากกว่าบรรจุภัณฑ์ แต่การสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นด้วยสีสัน การเลือกใช้วัสดุ และการออกแบบ ก็มีอิทธิพลและเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจในตัวสินค้า ที่วางจำหน่ายอยู่บนชั้นวางสินค้าหรือจำหน่ายอยู่ในร้านค้า นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ทำให้การพัฒนาของบรรจุภัณฑ์ในเชิงเทคนิคและการใช้งานช่วยทำให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการใช้งาน ส่งผลต่อการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความทันสมัย ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความสนใจและช่วยดึงดูดผู้บริโภคเช่นเดียวกัน

 

 

ตัวอย่างของการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เกิดความน่าสนใจและดึงดูดผู้บริโภคได้นี้ อาทิเช่น บรรจุภัณฑ์ในแบบสุญญากาศ ที่ถูกนำมาใช้งานกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารทั้งที่เป็นอาหารสดและอาหารแห้ง ที่นอกจากช่วยเก็บรักษาอาหารให้มีอายุยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเปิดเผยรูปลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใน แสดงออกถึงความสดใหม่หรือความน่ารับประทานได้นอกจากนี้ การนำเอาบรรจุภัณฑ์สุญญากาศมาใช้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพืชผลทางการเกษตรที่เป็นธัญพืช ช่วยลดความเสียหายจากมอดแมลงที่กัดกินเมล็ดพืชหรือธัญพืชอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

บรรจุภัณฑ์ในแบบถุงซิปล็อคที่ตั้งได้ นอกจากช่วยให้การเก็บรักษาความสดสะอาดให้ผู้บริโภคสามารถรับประทานหรือใช้ซ้ำ การเป็นถุงแบบตั้งได้ช่วยให้การจัดวางบนชั้นวางสินค้ามีความน่าสนใจ ดึงดูดสายตาของผู้บริโภคได้ง่ายอีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ ทำให้ประหยัดและสะดวกในการขนส่ง ช่วยลดต้นทุนในเรื่องของการจัดการโลจิสติกส์

 

 

บรรจุภัณฑ์แบบ PET ฝาดึง ที่ใช้บรรจุอาหารแห้งและอาหารน้ำช่วยเพิ่มความน่าสนใจบนชั้นวางสินค้า ช่วยยืดอายุบนชั้นวางสินค้าเพิ่มความสะดวกในการบริโภคและการขนส่ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

 

 

จึงเห็นได้ว่าการพัฒนาของบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ในด้านอรรถประโยชน์ของการใช้สอย ให้เกิดความคุ้มค่า ช่วยลดการสูญเสียทั้งในด้านทรัพยากรอาหารและลดการสูญเสียในกระบวนการบริหารจัดการของวิสาหกิจ และในท้ายสุด ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าในด้านการสร้างแบรนด์ ที่ทำให้แบรนด์มีความเข้มแข็งขึ้นจากการสร้างประสบการณ์และดึงดูดใจผู้บริโภค

 

ที่มา: กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM