สัมผัสประสบการณ์ความส่องสว่างกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยีจากเส้นใยแก้วนำแสง

สัมผัสประสบการณ์ความส่องสว่างกว่าที่เคยด้วยเทคโนโลยีจากเส้นใยแก้วนำแสง

 

 

 

ทุกท่านเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เรานำเทคโนโลยีซิลิโคนเหลวมาใช้ประโยชน์ในการส่องสว่างบนท้องถนนได้อย่างไร

 

 

 

เครื่องฉีด ALLROUNDER 52OA ของบริษัท ARBURG ซึ่งถือได้ว่ามีความแม่นยำสูง ที่บริษัท Wihelm Weber

 

 

 

รู้หรือไม่ว่าไฟหน้ารถที่ทุกท่านเห็นกันอยู่ตามท้องถนนในรถปัจจุบันนี้เป็นการผสมผสานการนำเทคโนโลยีซิลิโคนเหลวมาประยุกต์ใช้กับหลอดไฟ LED โดยหลอดไฟ LED ที่ใช้กันอยู่นี้จะมีตัวไดโอดที่ใช้ในการให้กำเนิดแสงจำนวนกว่า 40 ตัว ซึ่งตัวไดโอดที่มีความสามารถในการให้กำเนิดแสงเหล่านี้ทำจากซิลิโคนเหลว หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Liquide Silicone Rubber (LSR) ในโคมไฟรถยนต์ยี่ห้อ Audi รุ่น A8 ก็อาศัยการผลิตจากเทคโนโลยีแบบเดียวกันนี้โดยบริษัท Wihelm Weber ในประเทศเยอรมันนี

 

 

 

 

การประยุกต์เทคโนโลยีซิลิโคนเหลวมาประยุกต์ใช้ในหลอดไฟ LED

 

 

 

 

เราได้มีโอกาสพูดคุยกับกับมร. อันโตนิโอ ทรินเชส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการขายของบริษัท Wihelm Weber ซึ่งมร.อันโตนิโอได้อธิบายการนำเทคโนโลยีซิลิโคนเหลวมาประยุกต์ใช้ในหลอดไฟ LED ให้กับเราฟังว่า “ทางบริษัทใช้หลอดไฟ LED ที่มีไดโอดขนาดเล็กจำนวนกว่า 40 ชิ้น ที่จะทำหน้าที่ในการให้กำเนิดแสง โดยปกติไดโอดเหล่านี้จะทำการปล่อยลำแสงออกมาสองเส้นด้วยกันซึ่งยังไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในรถยนต์ เราจึงต้องทำการรวมลำแสงทั้งสองด้วยระบบเลนส์ที่ถูกเชื่อมติดกับไดโอด โดยเลนส์ที่ทำหน้าที่ในการรวมลำแสงทั้งสองนั้นถูกผลิตจากซิลิโคนเหลว (LSR) ซึ่งเลนส์ที่ผลิตจากซิลิโคนเหลวนี้นอกจากจะมีคุณสมบัติในการรวมแสงแล้ว ยังช่วยทำให้แสงส่องผ่านได้ง่ายส่งผลให้หลอดไฟ LED มีแสงสว่างที่มากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้เลนส์รวมแสงที่ทำจากซิลิโคนเหลวยังช่วยให้หลอดไฟ LED สามารถกระจายแสงไปยังตำแหน่งที่เราต้องการได้ด้วย ในการที่จะได้เลนส์ที่รวมแสงได้ดีนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เครื่องจักรในการผลิตที่มีความถูกต้องแม่นยำสูงเพื่อให้เลนส์ที่ผลิตได้มีคุณสมบัตในการรวมแสงไปในทิศทางที่ตรงตามความต้องการและไม่มีแสงสะท้อน” มร.อันโตนิโอ อธิบายกับเราเพิ่มเติมว่า “สำหรับบริษัท Wihelm Weber มองว่าการผลิตชิ้นงานที่ต้องการคุณภาพสูงแบบนี้จำเป็นที่จะต้องมีเครื่องจักร และแม่พิมพ์ที่มีคุณภาพสูง ทางบริษัทจึงตัดสินใจเลือกใช้เครื่องฉีดขึ้นรูปพลาสติกด้วยระบบไฟฟ้าจากบริษัท ARBURG รุ่น ALLDRIVE และเลือกใช้แม่พิมพ์สำหรับงานซิลิโคนเหลวที่มีช่องว่างสองช่อง พร้อมตัวหล่อเย็นเพื่อให้สามารถปรับคุณภาพชิ้นงานได้อย่างเหมาะสมและสะดวกในการบำรุงรักษา

 

 

 

 

หลอดไฟ LED หน้ารถที่ผสมผสานการนำเทคโนโลยีซิลิโคนเหลวมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความสว่างและการกระจายแสงให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค (photo Continental)

 

 

 

 

นอกจากนี้ มร. อัลริช เบช หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีพลาสติกและเอสซีเอ็ม ของบริษัท Wihelm Weber ยังได้ให้ความรู้กับเราเพิ่มเติมว่า การฉีดขึ้นรูปพลาสติกของบริษัท Wihelm Weber นั้น จะทำการฉีดขึ้นรูปด้วยเครื่องฉีด ALLROUNDR 520 A ของบริษัท ARBURG ซึ่งถือได้ว่ามีความแม่นยำสูง โดยทางบริษัทจะทำการกำหนดชุด clamp ให้เหมาะสมและเลือกใช้สกรูรูปทรงพิเศษที่จะใช้ในการฉีดซิลิโคนเหลวโดยเฉพาะและจะมีปริมาณการฉีดพลาสติกแต่ละครั้งอยู่ที่ 48 กรัม

 

 

 

 

ตัวนำแสงที่ทำจากซิลิโคนเหลวถูกผลิตขึ้นจำนวนกว่า 150,000 ชิ้นต่อปีเพื่อนำไปใช้กับรถยนต์ยี่ห้อ Audi รุ่น A8 (photo ARBURG)

 

 

 

 

ทั้งนี้เพื่อทำให้คุณภาพของลำแสงที่ส่องผ่านชิ้นเลนส์ได้ตรงตามข้อกำหนดและความต้องการของลูกค้า ทางบริษัทยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือก cycle time ในการฉีดซิลิโคนเหลวที่เหมาะสม เพื่อให้ซิลิโคนเหลวทำปฏิกิริยาและเชื่อมต่อกับผิวหน้าของแหล่งกำเนิดแสงได้อย่างดีที่สุด ทางบริษัทเลือกใช้ซิลิโคนเหลวสองชนิดที่มีค่า Shore hardness อยู่ที่ 72A ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในการผลิตส่วนของเลนส์ เพราะจะทำให้ชิ้นเลนส์มีคุณสมบัติในการส่องผ่านแสงได้สูง ไม่แตกหักง่ายในขั้นตอนการถอดชิ้นงานออกจากแม่พิมพ์

 

 

 

 

 

การตรวจสอบย้อนกลับด้วยระบบ DMC

 

 

 

 

นอกจากคุณภาพของชิ้นงานที่ทางบริษัทใส่ใจเป็นพิเศษแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทางบริษัทจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือการตรวจสอบย้อนกลับ กล่าวคือหลังจากการที่ขึ้นรูปชิ้นงานเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทจะมีขั้นตอนที่เรียกว่า Data Matrix Code (DMC) ซึ่งจะเป็นขั้นตอนในการยิงแสงเลเซอร์ลงไปบนชิ้นงาน เพื่อทำการบันทึกข้อมูลการผลิต Production Data Acquisition (PDA) ด้วยวิธีการนี้จะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบย้อนกลับค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เมื่อใดก็ตามที่พบว่าชิ้นงานมีปัญหาทางบริษัทสามารถที่จะตรวจสอบกลับผ่านข้อมูลที่บันทึกโดยขั้นตอน DMC ซึ่งเราสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึง cavity ที่ใช้ในการผลิตเลยทีเดียว ซึ่งในการตรวจเช็คย้อนกลับนี้ทางบริษัทจะอาศัยการตรวจเช็คผ่านกล้องตรวจจับคุณภาพที่สามารถคัดแยกชิ้นงานที่มีคุณภาพและชิ้นงานที่ไม่ตรงตามคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว  โดยชิ้นงานที่ตรงตามคุณภาพจะถูกวางลงบนถาดสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิในขั้นตอนต่อไป ส่วนชิ้นงานที่ไม่ตรงตามคุณภาพหรือมีเศษชิ้นส่วนที่เกินมานั้นจะถูกคัดแยกออกไปด้วยระบบหุ่นยนต์แบบ 6 แกน พร้อมด้วยตัวจับชิ้นงานแบบสุญญากาศ ปัจจุบันบริษัท Wihelm Weber ทำการผลิตตัวนำแสงจากซิลิโคนเหลวจำนวนกว่า 150,000 ชิ้นต่อปี ด้วยเครื่องอาร์เบอร์กพร้อมระบบหุ่นยนต์อัติโนมัติแบบนี้ เพื่อนำไปใช้กับรถยนต์ยี่ห้อ Audi รุ่น A8 ซีรียส์

 

 

 

 

 

แม่พิมพ์คุณภาพสูงแบบสองช่องสำหรับงานฉีดซิลิโคนเหลว ที่ทางบริษัท Wihelm Weber เลือกใช้ (photo Weber)

 

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM