กระป๋องทัลค์ (TULC) “บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

 

 

 

 

 

กระป๋องทัลค์เป็นเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาและคิดค้นโดยบริษัท โตโย ไซกัน จำกัด (Toyo Seikan Co.,Ltd) โดยอาศัยการปรับปรุงกระบวนการผลิตกระป๋องทั่วไปสำหรับเครื่องดื่มการผลิตกระป๋องทัลค์ได้ เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2534 และจนถึงปัจจุบันนี้กระป๋องทัลค์ได้แทรกซึม เข้าสู่ตลาดบรรจุภัณฑ์ของญี่ปุ่นด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 20 หรือประมาณ 7 พันล้านกระป๋อง และมากขึ้นในอนาคต

 

 

 

ในช่วงแรกเริ่มกระป๋องทัลค์ได้ถูกพัฒนาภายใต้หลักการ Life Cycle Assessment (LCA หรือการประเมินวัฏจักรชีวิต) ซึ่งได้คำนึงถึงการใช้วัตถุดิบทางธรรมชาติในปริมาณที่น้อยที่สุดแต่เกิดประโยชน์สูงสุด โดยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากกระบวนการผลิต กระป๋องทัลค์ลงเหลือเพียงร้อยละ 20 และลดการใช้พลังงานได้ร้อยละ 26 เมื่อเปรียบเทียบกระบวนการผลิตกระป๋องทั่วไปแบบ Draw and Wall Ironing: DWI

 

 

 

กระป๋องทัลค์ (Toyo Ultimate Lightweight Can) เป็นกระป๋อง 2 ชิ้น ที่ทำจากเหล็กไม่เคลือบดีบุก (Tin Free Steel, TFS) หรืออะลูมิเนียมหุ้มด้วย Polyethylene Terephthalate (PET) ทั้งด้านในและด้านนอกด้วย

 

 

 

 

 

 

 

กระบวนการฉีดพ่น (Spray Coating) และการอบเพื่อให้พอลิเมอร์คงตัว ซึ่งแตกต่างจากกระป๋อง DWI ที่ใช้น้ำยาเคลือบ และอบแห้งด้วยความร้อน จึงทำให้ลดปริมาณ CO2 ที่ปลดปล่อยสู่อากาศลงเหลือน้อยกว่า 1 ใน 3 ดังนั้นกระป๋องทัลค์ มีจุดเด่นในด้านของน้ำหนักเบา ลดการใช้พลังงานและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือ Recycle ได้ ซึ่งในปัจจุบัน บริษัท บางกอกแคน แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแรกของประเทศไทยที่ได้ติดตั้งเครื่องจักรเพื่อผลิตกระป๋องทัลค์

 

 

 

เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ใช้น้ำ จึงไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางน้ำ เนื่องจากกระบวนการขึ้นรูป กระป๋องด้วย DWI ทั่วไปต้องใช้น้ำในปริมาณมากเพื่อช่วยลดความร้อนขณะทำการรีด และขั้นตอนการล้าง แต่กระป๋องทัลค์ได้ขึ้นรูปด้วย Dry Forming จึงลดการใช้น้ำได้ถึง 9,000 ลบ.ม./เดือน/สายการผลิต สำหรับปริมาณของเสียจำพวก โลหะหรือเศษของแข็งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการบำบัดน้ำเสีย ในกระบวนการผลิตกระป๋องทัลค์ลดลงเหลือเพียง 120 กิโลกรัม/เดือน/สายการผลิต ในขณะที่กระป๋อง DWI มีของเสียเกิดขึ้นประมาณ 40 ตัน/เดือน/สายการผลิต

 

 

 

หากพิจารณาถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิต พบว่ายังเป็นเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการ Recycle โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการ ผลิต TFS นำมา Recycle ได้ง่ายกว่า รวมไปถึงฟิล์ม PET ที่เมื่อถูกเผาจะไม่เกิดก๊าซที่เป็นพิษในอากาศ เพราะจะสลาย ได้เป็น CO2 ไฮโดรเจน และออกซิเจน

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้กระป๋องทัลค์ยังมีคุณสมบัติในการปกป้องผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ด้านในให้คงรสชาติสีและกลิ่นได้ดีกว่ากระป๋อง DWI ซึ่งผิวด้านในเคลือบด้วยแลคเกอร์ (Lacquer) ในขณะที่กระป๋องทัลค์จะหุ้มด้วยฟิล์ม PET ที่มีความแข็งแรง ไม่ดูดซับกลิ่นและรสของผลิตภัณฑ์

 

ที่มา : http://www.toyo-seikan.co.jp

ที่มา : http//www.ajinomoto.co.th/print_new

Post a Comment

#FOLLOW US ON INSTAGRAM